ข้างหลังภาพ Lyrics
เพลงนะท์ซึ
หมู่มวล : นะท์ซึ นะท์ซึ ฤดูร้อนวันเริ่มต้นทุกสิ่ง ลมพัดมาหอบเอาไออุ่น รุ่งอรุณแห่งฤดูใหม่ นะท์ซึ นะท์ซึ ฤดูร้อนวันเริ่มต้นทุกอย่าง เคยพลั้งไปอภัยกันบ้าง ลืมเมื่อวานมาเริ่มกันใหม่ อธิษฐานยามลมแรกพัดพาพรจะสุขสม ปาฏิหาริย์จะปรากฏขึ้นกับเราได้ทุกคน คุณพระจงโปรดดลบันดาล ชีวิตใครจะผันเปลี่ยนเมื่อสายลมพัดผ่านมา ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง
เพื่อน : โอฮาโยจะไปไหนใยรีบร้อน นพพร วันนี้เรามีนัดสำคัญ
นพพร : วันนี้มีธุระต้องทำ
เพื่อน : งานอันใดจะดีกว่าเทศกาลในวันนี้ ไอ้เพื่อนซี้ไม่ไปวันนี้นายคงต้องเสียดาย มีสาวงามแต่งยูคาตะ มีร้านยากิโซบะ เพื่อนรักจงมาให้ไว
นพพร : เพื่อนเอยต้องบอกว่าเสียใจ เราต้องไปรับเจ้าคุณ เจ้าคุณอธิการเพื่อนพ่อเรา เดี๋ยวไม่ทัน
เพื่อน : ท่านสำคัญมากกว่าเพื่อน
นพพร : ท่านมีบุญคุณ
เพื่อน : อย่ามาอ้างเรื่องบุญคุณ
นพพร : แต่ที่ชอบเนรคุณน่ะพวกนาย ไปละ
นพพร : ท่านเจ้าคุณ มารอนานรึยังครับ
เจ้าคุณ : อ้อ นพพร
นพพร : นี่คงเป็น
เจ้าคุณ : นี่ต้นห้องของกีรติ ชื่อนวล ตอนนี้กีรติพลัดหลงไปไหนไม่รู้ รีบช่วยกันตามหาก่อนดีกว่า
นวล : คุณหญิงใส่ชุดสีน้ำเงินลายจุดเจ้าค่ะ
นพพร : ครับ
เพลงชุดน้ำเงินมีลายจุด
นพพร -นั่นคุณหรือเปล่า คุณหญิงกีรติ ขอโทษคือคุณใช่ไหม
กีรติ-คะ ดิฉันนั้นชื่อกีรติ ไม่เคยคุ้นหน้าคุณแล้วคุณคือ ?
นพพร - ตัวผมชื่อว่า นพพร
กีรติ - เธอเองนะหรือคือนพพร อะไรทำเธอให้มั่นใจ รู้ว่าใครคือฉัน
นพพร - ชุดน้ำเงินมีลายจุด ต้นห้องว่าอย่างนั้น
กีรติ - เดาว่าเธอแต่งชุดนักเรียน
นพพร - ใช่.. คือชุดนักเรียน
กีรติ - ขอชมว่าน่าเอ็นดู ทั้งเครื่องแบบและสีไม่เหมือนที่ใด ทำไมเราทั้งสองบังเอิญ
นพพร - บังเอิญเรื่องอะไร ?
กีรติ - เราต่างแต่งกายน้ำเงิน เช่นกัน ..
เพลงเธอสวย
เพื่อน : เธอสวย เธอสวย น่าชื่นชม...น่ารัก น่ารัก น่าดอมดม เปรียบเธอดั่งซากุระบาน ยอดสคราญของมวลชน ไม่ว่าใครต้องจำนน เกิดรุ่มร้อน ชายคนไหนจะมองจะเหมือนต้องมนต์ ให้ลุ่มหลง...ให้ลุ่มหลง
เพื่อน : คุณหญิงเธอสวย...ใช่เลย
นพพร : สวยเกินใคร
เพื่อน : พนันกันมั้ย...ว่าไป...มาเดิมพัน ว่าเธออายุสักเท่าไร
นพพร : พวกนายว่างนักหรือไง
เพื่อน : ก็เธอสวยซะเกินวัย...นพพร ก็คุณหญิงเธอช่างงดงามดีว่ะ หรือว่านายไม่สงสัย สะพรั่งอย่างนี้... เฮ่อ ยี่สิบแปด เต่งตึงอย่างนี้...ยี่สิบห้า นายล่ะ จะทายว่าเท่าไร ว่าอย่างไรวะนพพร
นพพร : "ยี่สิบหก" เฮ้ย หยุดเถอะวะ เกรงใจท่านเจ้าคุณหน่อย เพื่อนพ่อเรา เข้าใจไหม
เพื่อน : ดูเจ้าคุณกำลังเต้นรำกับศรีภรรยา ช่างเหมือนว่าเป็นคู่ลูกสาวตัวเอง แกว่าไง ทำไมคนสวยๆจึงมีสามีชราวัย ดูให้ดีมันช่างน่าสงสัย หรือว่าท่านเจ้าคุณมากด้วยฐานะและเงินทอง ใครได้ตีตราจองก็คงสบายจนบั้นปลาย ยามควงชายชราเพื่อมรดกอันมากมาย
นพพร : ยอดนักวิเคราะห์จริงๆโต๊ะนี้ ไต่ถามกับท่านตรงๆดีมั้ย
เพื่อน : ได้...เฮ้ยย เราเตรียมงาน เพื่อต้อนรับ ท่านคงชอบ ใช่มั้ยครับ
นพพร : "สร้างภาพเก่งจริงๆเลยนะ"
เพื่อน : เปรียบเธอดั่งซากุระบาน ยอดสคราญของมวลชน ไม่ว่าใครต้องจำนน
เกิดรุ่มร้อน ชายคนไหนจะมองเธอเหมือนต้องมนต์ ให้ลุ่มหลง
เพลงคำชมของเธอ
คุณหญิง : ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนกับทุกคนกำลังจ้องมองฉัน ฉันทำอะไรผิดรึเปล่า
นพพร : คนที่นี่เขาไม่เคยเห็นใครงดงามเช่นคุณหญิงนะครับ
คุณหญิง : นพพร
นพพร : ก็คุณหญิงสง่างามจริงๆนี่ครับ
คุณหญิง : คำชมของเธอ จงอย่าเที่ยวพูดไปเมื่อเจอะเจอสาวที่ไหน อาจจะทำให้เขาเข้าใจผิด
ว่าเธอนั้นกำลังคิดจะเกี้ยว
นพพร : คุณหญิงเป็นเพียงผู้เดียว ที่งามจนต้องชม ขอชมด้วยหัวใจ
คุณหญิง : ฉันเพิ่งเตือนเธอใช่ไหม แต่เธอนะช่างดื้อซะจริงๆ แต่ก็ดื้อด้วยความน่าเอ็นดู
นพพร : ขอดื้อเพื่อพูดความจริง ทุกสิ่งไม่เคยป้อยอ
คุณหญิง : คนแก่อย่างฉันต้องขอขอบใจ
นพพร : เหตุใดแทนตัวว่าคนแก่ไม่เห็นเป็นอย่างนั้น เมื่อครูเพื่อนผมยังพนัน เรื่องอายุคุณหญิง
( ขอโทษครับ )
คุณหญิง : พนันกันว่าซักเท่าไหร่
นพพร : 26 อายุ อุ่ย ผมไม่ได้รวมพนัน แค่เท่าที่เห็นประมาณว่าไม่น่าเกิน 26 ปี
คุณหญิง : ถ้างั้นเธอเองก็ทายผิด
นพพร : ( ว่าแล้ว 25 )
คุณหญิง : ที่จริงก็คือ 35
นพพร : คุณหญิงพูดเล่นใช่ไหม
คุณหญิง : ฮึฮึ ขอบใจนะนพพร เธอทำให้ฉันดีใจ รู้สึกเด็กไปได้ตั้ง 10 ปี
เพลงทองแดนตะวัน
หมู่มวล : ท่องแดนตะวัน ได้เห็นเมืองมากมาย แผ่นดินนี้ตำนาน งามเหมือนภาพระบาย ยามตะวันส่องแสง ส่องทุกภาพที่ซ่อนเก็บความหมาย ให้เด่นและชัดออกมา
นพพร : เหตุใดดูเขาและเธอกลับห่างเหินกัน ทั้งที่มาฉลองน้ำผึ้งพระจันทร์ เหตุใดจึงทิ้งเธอไว้กับเราทุกวัน ทำให้เราข้องใจในความสัมพันธ์
กีรติ : "เป็นภาพที่สวยมาก เธอว่าไหมนพพร"
นพพร : "ผมดูไม่เป็นเหมือนคนอื่นๆเขาหรอกครับ อย่างนี้เขาเรียกว่าสวยหรือครับคุณหญิง"
กีรติ : "จำไว้นะนพพร ไม่ใช่ทุกคนหรอก ที่จะเห็นว่าอะไรสวยเหมือนกันหมด"
นพพร : "แล้วทำไมคุณหญิงเห็นว่ามันสวยล่ะครับ"
กีรติ : ก่อนนี้ ฉันเฝ้าเรียนรู้อยู่หลายปี การระบายสีจากพู่กัน เพื่อวาดความฝันจากหัวใจ ที่ฉันมี กี่ครั้งก็ตามที่ฉันจับพู่กัน ชีวิตดั่งมีเสรี กระดาษของฉัน จะเปลี่ยนเป็นภาพสดใส
นพพร : ทิวทัศน์ ญี่ปุ่นก็ล้วนแต่น่ามอง น่าลองวาดดูซักใบ ถ้าหากคุณหญิง ได้วาดต้องงามสดใส
กีรติ : "แต่ฉันได้เลิกวาดภาพไปแล้วล่ะนพพร"
นพพร : "ทำไมล่ะครับ ทำไมคุณหญิงถึงเลิกวาดภาพล่ะครับ"
กีรติ : "นพพร เราไปดูทางโน้นดีกว่า เขาเต้นอะไรกัน"
หมูมวล : ท่องแดนตะวัน ได้เห็นเมืองมากมาย แผ่นดินนี้ตำนาน งามเหมือนภาพระบาย ยามตะวันเรืองรอง บางครั้งร้อนรุนแรงกว่าคาดไว้ ทำให้ตัวเรารุ่มร้อน
นพพร : ไม่อยากสงสัย ในเรื่องของเขาและเธอ แต่พอเจอทุกๆวัน สิ่งที่ใครเขาพูดกัน เริ่มจะทำให้เราคล้อยตามด้วยความเพียบพร้อมและมีสกุลเช่นเธอ ใยถึงยอมวิวาห์กับชายสูงวัย ยิ่งเธอลึกลับยิ่งทำให้เรา สนใจ
มีพลังที่พาให้เรา เข้าไป
หมู่มวล : ถึงเทศกาลดอกไม้ไฟ ฮานาบิ มัตสุริ พวกเรามาชื่นชมดอกไม้ไฟแสงเรืองรอง ดูร้อนแรงยามประกาย
มืดมนเพียงใด เมื่อดอกไม้ไฟกระจาย ทั่วแผ่นฟ้าจะได้สว่างสวยงาม
เพลงความสุขที่แท้จริง
นวล : "ทำไมถึงกลับดึกขนาดนี้คะคุณนพพร"
นพพร : "ขอโทษครับ ผมคงพาคุณหญิงเที่ยวเพลินไปหน่อย"
นวล : "ถ้ามีใครมาเห็นคุณหญิงอยู่ด้วยกันกับคุณนพพรจนดึกแบบนี้ มันจะเป็นภาพที่ไม่งามนะคะ"
นพพร : "ผมแค่อยากเห็นหญิงมีความสุขนี่ครับ"
นวล : ความสุขแท้ย่อมไม่สร้างราคี ดำรงซึ่งความมีเกียรติ ศักดิ์ศรี
นพพร : ความสุขที่ใครนิยาม ล้วนต่างแต่ใจเลือกสรร ครรลอง
นวล : คุณดูพูดจาได้มีครรลอง นพพร : (ผมเพียงรู้สึก)
นวล :ต่างกับภาพวัยที่อ่อนเช่นนี้ นพพร : (มองออกในด้านดี)
นวล :หวังให้คุณหญิงสุขใจ ไม่น่าจะทำเช่นนี้
นพพร : แน่ใจอย่างไร ว่าสิ่งที่ผมมันทำพลาดไป
นวล :แน่นอนฉันรู้ดีกว่าใคร
นพพร : ชีวิตเธอผ่านมาน่ะหรือ คือสุขแท้จริง
นวล :ย่อมเป็นสุขแท้จริง สุขที่แท้ที่คุณหญิงเธอมี นพพร : (ใครเล่าที่มี)
นวล :สุขคือได้ดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรี นพพร : (ใครเล่าที่เห็นดี)
นวล :คุณอ่อนวัยเสียอย่างนี้ ต้องผ่านโลกนี้อีกไกล จึงจะได้เข้าใจ..
เพลงหากฉันมีความรัก
นพพร : รัก เปรียบดังพู่กัน ระบายภาพฝัน สวยงามเพริดพราย ก่อนใครได้พบความรัก จิตใจดั่งกระดาษขาว
เมื่อได้มีรัก ความว่างเปล่า...หายไป มีรัก...ดั่งมีพู่กัน ค่อยๆเสกสรร โลกพลันสดใส ระบายสีฟ้าบนฟ้า สีครามบนธารกว้างใหญ่ หากใครมีรัก รักย่อมบันดาลได้ทุกอย่าง...สร้างสรรค์วันใหม่ หากฉันมีความรัก จะวาดสวรรค์ของเราให้ไกล...แสนไกล จะไม่มีผู้ใด มีแต่เราระบายความฝัน...ในใจ หากฉันมีความรัก จะวาดให้รักเราเป็นนิรันดร์ ไม่มีวันร้าง...ไกล คิดอย่างไร ถ้าเธอนั้นมี...รัก
กีรติ : หากฉันมีคนรัก จะวาดฝันร่วมสร้างวิมานด้วยกัน จะร้องเพลงเต้นรำ ในสวรรค์ที่เราเสกสรรดังใจ
หากฉันมีคนรัก เราจะเคียงข้างกันจนนิรันดร์ ไม่มีวันร้าง...ไกล คงอิ่มใจ ถ้าหากฉันมี...รัก
กีรติ : นพพร เธอไม่รู้รึ ทำอะไรลงไป
นพพร : ทำไปเพราะผมรักคุณหญิง
กีรติ : นพพร นี่ไม่ใช่วิธีที่เธอสมควร
นพพร : ไม่ใส่ใจ ไม่อยากรู้ว่าจะควรหรือไม่ มีเพียงความรักที่ดำรง เหนือทุกสิ่ง เหนือทุกอย่าง
กีรติ : มีสติหน่อยนพพร เมื่อต่างก็รู้ เรามีฐานะอย่างไร
นพพร : ต่อให้มีเหตุผลร้อยพัน อย่ายกเอาสิ่งเหล่านั้นมาห้ามใจ
กีรติ :มันถูกมันควรหรือไม่
นพพร : ไม่มีอะไรจะมีพลังยิ่งใหญ่
กีรติ :เราต่างก็ควรห้ามใจ นพพร : (ว่าความรักที่ให้คุณหญิง)
กีรติ :ฟังได้ไหม นพพร : (ไม่ว่าความจะเป็นเช่นไร)
กีรติ :ตัวฉันต้องดูแลทั้งเจ้าคุณ นพพร : (เรื่องนั้นผมรู้ดี)
กีรติ :ส่วนเธอต้องมุ่งเรียนใช่หรือไม่ นพพร : (เรื่องนี้ผมรู้อยู่แก่ใจ)
กีรติ :แต่การมาเรียนญี่ปุ่นเธอเป็นความหวังของใคร นพพร : (ไม่อยากจะสนใคร)
กีรติ :จงลองค่อยคิดให้ดีอีกครั้ง นพพร : (แล้วคุณหญิงรักผมไหม)
กีรติ :นพพร!
นพพร : ซ่อนตัวเองมานานเท่าไร จะไปกลัวทำไมความรัก สิ่งที่เธอไม่เคยรู้จักเลยสักครั้ง หากเธอลองมองมาให้ดี ฉันมีเธอในใจเท่านั้น
กีรติ : "นพพร! เราสองคนไม่ได้อยู่บนยอดเขามิตาเกะนี้ไปตลอดชีวิต อีกไม่นาน เราก็ต้องกลับ กลับไปสู่สังคมข้างล่าง สังคมที่ไม่ได้มีเพียงแค่เราสองคน สังคมที่ได้วาดภาพเราไว้แล้ว ว่าต้องเป็นอย่างไร"
นพพร : "แล้วภาพใหม่ทีเกิดขึ้นวันนี้ ที่นี่ล่ะครับ"
กีรติ :"ไม่มีใครหรอก ที่จะเห็นความงานของภาพนี้ เชื่อฉันเถอะคนดี เธอจงคิดว่ามันเป็นภาพสีน้ำสิ ภาพสีน้ำ เมื่อโดนน้ำเมื่อไหร่ ก็จะเลือนหายไป ราวกับว่ามันไม่เคยมีภาพนั้นอยู่เลย"
เพลงใจแทบขาด
หมู่มวล : ใจเราจำลา จนจะกลั้นน้ำตา ไม่ไหว ต่างคนโคจรมาเจอ เมื่อสุดท้ายทั้งฉันและเธอต้องจากลา
เมื่องานเลี้ยงมีวันเลิกรา เรื่องแบบนี้เป็นธรรมดา แต่ภาพคืนวันเหล่านั้นจะคงติดตรา อยู่ประทับหัวใจ
ได้ยินเสียงกังวานหวูดเรือ เปรียบดังเสียงหัวใจจะขาด จะพรากกันไป จะพบ กันอีกไหม อีกนานสักเท่าไหร่
นพพร : "คนเยอะเหลือเกินนะครับ ทำไมชีวิตเราต้องมาอยู่กับคนเยอะแบบนี้ด้วยครับคุณหญิง"
กีรติ : "เราเลือกไม่ได้หรอกนพพร"
นพพร : เพียงต้องการร่ำลาต่อกัน โดยลำพังแค่เรา ไม่อยากลาท่ามกลางผู้คน อย่างไร้...ไร้เยื่อใย
กีรติ : เมื่อจากกันสัญญากับฉัน ต้องตั้งใจเล่าเรียน ฉันจะรอฟังเรื่องเธอที่เมืองสยาม ด้วยความตั้งใจ
นพพร : คุณหญิง โปรดคิดถึงผมนะครับ ผมจะเฝ้าคิดถึงเพียงคุณหญิง ผมจะเอาทุกความรู้สึกบรรยายเป็นตัวอักษรไป คอยส่งถึงทุกวัน
กีรติ : จะรอคอยฉันจะรออ่านจดหมายจากเธอนะ นพพร...
กีรติ : "ผ้าพันคอของเธอ มันเก่าแล้ว โปรดเก็บผืนนี้ไว้ เป็นที่ระลึก...ต่างตัวฉันนะ"
กีรติ : เธอจะเป็นเพื่อนรักของฉัน จงระลึกถึงกัน โปรดอย่าลืมแม้เพียงสักวัน
นพพร : คำพูดก็ยังมีอีกเป็นล้าน ผม จะบอกออกไปได้อย่างไร เวลามันน้อยลงทุกที ไม่มีเพียงพอให้พูดไป
กีรติ : จงพูดเท่าที่ทำได้เถิดนะ
นพพร : อยากห้ามเวลา
กีรติ : นพพร อย่ากังวล อย่าหวั่นไหว
นพพร : อยากห้ามฟ้าดิน
กีรติ : คำใดๆก็ตาม เป็นหมื่น เป็นล้าน จะอ่านจากสายตา...
นพพร : จงอ่านผมด้วยสายตา แทนคำในหัวใจ อยากจะบอกให้รู้ว่า..."ผมรักคุณหญิง" ยามไกลกันเมื่อไร ได้โปรดคิดถึงคนไกลคนนี้...
กีรติ : นพพร...ฉันจะคิด ถึงเธอ
นพพร : ได้โปรดบอกผมมาเถิด รักผมบ้างไหม
กีรติ : นพพร...ฉันเป็นเพื่อนตายของเธอ
นพพร : ทำไมคุณหญิงไม่ตอบผมให้ได้รู้ รักกันบอกมาสักคำ
กีรติ : คำตอบตรงนี้จะทำร้ายเธอและฉัน
นพพร : บอกผม ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร ที่แล้วมา รักผมหรือไม่...แค่พูดตรงๆให้ผมได้ฟัง
กีรติ : รีบไป ได้โปรด นพพร...ฉันแทบใจจะขาด...
หมู่มวล : จากกันแล้วเราต้องจากกัน อยากจะรั้งจนใจจะขาด จากพรากกันไป จะพบกันอีกไหม อีกนานสักเท่าไหร่
เพลงภาพวันนั้น
นพพร : จะออกไปเพื่อพบเธอ จะออกไปโดยไว แต่ยังคงได้แต่สงสัย...ที่คุณมา ที่ผ่านมาก็เห็นอยู่ ว่าคุณไม่พอใจ การที่ผม ใกล้คุณหญิง คือ...ภาพอันไม่งาม
นวล : ก่อนนี้ ฉันมองภาพนั้นผิดเรื่อยมา แค่เพียงตัดสินด้วยสายตา พร่ำโทษตัวเองเมื่อรู้ว่า มองพลาด...ไป
สิ่งเดียว ทำให้คุณหญิงเธอยิ้มได้ ในยามเจ็บจนร้องไห้ คือภาพวันนั้น เธอเฝ้าคิดถึง ไม่คลาย...
นพพร : "ไปกันเถอะครับ คุณนวล"
เพลงสายเสียแล้ว
กีรติ : คนดีนพพร...
นพพร : คุณหญิงของผม...ผมมาด้วยความ...คิดถึง
กีรติ : ขอบใจมากที่ทำให้รู้ว่า เธอยังไม่ลืมฉัน เสียทีเดียว
นพพร : ยังคงระลึกถึง...ไม่ลืม
กีรติ : ไม่เจอเสียนาน จนเกือบจะคิดไป ว่าไม่มีทาง...ได้พบ
นพพร : กลับมาแล้วครั้งนี้...จะไม่ห่าง จะเคียงข้างตราบคุณหญิง...ต้องการ
กีรติ : เธอพูดเช่นนี้ไม่ได้...
นพพร : จะห้ามปรามผมทำไม
กีรติ : เธอไม่ใช่ของฉัน...เธอ ย่อมรู้ สถานภาพที่เราอยู่ นั้นไม่เคยเหมาะสม แวดล้อมมากมายด้วย...ผู้คน
นพพร : ผมไม่เคยใส่ใจ เราจะมัวไปสนทำไม...
กีรติ : นพพร
นพพร : โปรดให้ผมชิดใกล้ อย่าผลักไสผมไป...อีกเลย
กีรติ : สายเสียแล้วก็เห็นอยู่...
นพพร : ผมไม่เข้าใจ...
กีรติ : ถูกแล้วที่เธอไม่เข้าใจ...และไม่ควรเข้าใจ...ไม่เคยมีสักครั้งที่เธอ....เข้าใจฉันได้เลย ไม่เข้าใจแม้ตัวเอง...
นพพร : มันอาจไม่ยากเกินไป...ถ้าพูดตรงๆให้ผม ได้ฟัง
กีรติ : "เธอเคยบอก ว่าเธออยากเห็นภาพวาดทิวทัศน์ญี่ปุ่น จากฝีมือของฉัน...ฉันขอมอบภาพนี้ ให้เป็นของขวัญในการแต่งงานของเธอ"
นพพร : "...มิตาเกะ"
กีรติ : "ฝีมือไม่ดีหรอกนพพร แต่มีชีวิต และดวงใจ อยู่ในภาพนั้น...มันจึงสมที่จะเป็นของขวัญในวันแต่งงานของเธอ จำได้ไหมนพพร ว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่นั่น..."
นพพร : "ความรักของผมเกิดที่นั่น"
กีรติ : "ความรักของเรา นพพร...ความรักของเธอ เกิดที่นั่น แล้วก็ตายที่นั่น
แต่ของอีกคนหนึ่ง ยังรุ่งโรจน์อยู่ในร่างที่กำลังจะแตกดับ..."
See also:
JustSomeLyrics
90
90.117
Rodes 1 Sympan Lyrics
Niña Pastor No me pidas que no sea un inconsciente Lyrics